ร่างสูงจัดการถอดสูทสีดำของตนเองออก
ไม่นานกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำก็ถูกปลดออกจนหมดเผยให้เห็นกล้ามมัดในแบบที่คีย์ไม่มี
เข็มขัดที่ถอดออกถูกเขวี้ยงไปข้างๆราวกับของไร้ค่า ก่อนที่มินโฮจะเลื่อนมือมาปลดกระดุมของอีกฝ่ายด้วยความเร็วชนิดที่คีย์ยังไม่ทันได้ตั้งตัว
เมื่อเปลื้องท่อนบนเสร็จก็เลื่อนลงมาปลดซิปกางเกงออกก่อนจะดึงกางเกงสีดำเข้ารูปนั้นออกอย่างรวดเร็ว
จนมาถึงปราการด่านสุดท้ายที่ก็ถูกถอดออกอย่างไร้ความปราณี
มือหนาจับขาเรียวนั้นแยกออกก่อนจะสอดใส่ความเป็นชายของตนเข้าไปโดยไม่มีการปลุกเร้าใดๆทั้งสิ้น
“โอ๊ยยยยย” คีย์ร้องออกมา...ไม่ใช่ด้วยความเสียวซ่าน
แต่เหมือนจะด้วยความเจ็บปวดเสียมากกว่า แม้ว่าความเจ็บปวดนั้นจะไม่ได้มากมายนัก
เพราะเขาเองก็ใช่ว่าจะบริสุทธิ์ หากแต่การที่สอดแทรกร่างเข้ามาอย่างรุนแรงภายโดยไม่ได้รับปลุกเร้าจนพร้อมถึงขนาดที่จะรับการสอดใส่ได้นั้น
ก็ทำให้ร่างบางรู้สึกร้าวขึ้นมาในบริเวณที่ถูกรุกล้ำอย่างช่วยไม่ได้
ชายหนุ่มไม่ทันได้ใส่ใจว่าเสียงหวานที่หวีดร้องขึ้นมาเบาๆนั้นเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่
เขาฝังใบหน้าลงกับซอกคออุ่น
กัดฟันแน่นกับความรู้สึกบีบรัดรอบแก่นกายที่รุนแรงเสียจนเขาแทบจะทนไม่ไหว
แม้เขาจะดันร่างเข้ามาได้เพียงครึ่งทางเท่านั้น หลังจากที่สะกดกลั้นข่มอารมณ์ไม่ให้ระเบิดออกมาเสียแต่เดี๋ยวนี้ได้จนสำเร็จ
มินโฮก็ค่อยๆช้อนสองมือเข้าใต้บั้นท้ายตึงแน่น กระชากร่างบางเข้าหาอีกสองสามครั้ง
จนกระทั่งเขาสามารถล่วงล้ำผ่านความคับแน่นเข้าไปได้จนสุดทาง
ท่ามกลางเสียงหวีดร้องเบาๆอีกคราของเจ้าของร่างงาม ที่ตามมาด้วยอาการจุกแน่นจนแทบจะทนไม่ไหวกับขนาดของสิ่งแปลกปลอมในร่างรวมทั้งแรงกระแทกกระทั้นของผู้เป็นเจ้าของ
น้ำตาของคีย์พลันขังคลอขึ้นในดวงตาอีกครั้ง
เมื่อความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทำให้เขาพาลนึกไปถึงค่ำคืนแรกที่ต้องสูญเสียความเป็นชาย...ชนิดที่เรียกว่าโหดร้าย
ป่าเถื่อน ไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์จากชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็น.....รักแรก
“อ่ะ อ่าาา คีย์” มินโฮครางออกมาเบาๆเมื่อสามารถพาร่างของตนเข้าไปได้จนสุด
หากแต่ชายหนุ่มยังไม่ยอมขยับกาย เพราะเกรงว่าจะไม่สามารถทนทานกับความรู้สึกเสียวซ่านที่เกิดจากแรงบีบรัดภายในร่างบางนั้นได้
ไม่เคยเลยจริงๆที่เขาจะรู้สึกรุนแรงถึงขนาดนี้กับคู่นอนคนไหน
เพียงแค่แทรกกายเข้าไปเท่านั้น ความรู้สึกของเขาก็จวนเจียนจะถึงจุดระเบิด...สวยไปทั้งร่าง
ผิวกายขาวเนียนราวกับหิมะ เนื้อตัวนุ่มแน่นไม่หย่อนคล้อย ช่องทางสีเรื่อราวกับไม่เคยถูกผู้ใดแตะต้อง
แล้วยังความรู้สึกคับแน่นที่เขาสัมผัสอยู่นี่อีกหล่ะ ชายหนุ่มอดเผลอนึกไปไม่ได้ว่าเขากำลังร่วมรักอยู่กับหนุ่มน้อยบริสุทธิ์ที่ไม่เคยผ่านใครมาก่อน
แต่ความคิดก็คงเป็นแค่ความคิดที่หลอกตัวเองเพราะชายหนุ่มเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าคนตรงหน้านี้ก็เคยผ่านเพื่อนเขามาแล้ว
...แล้วจะเสียดายอะไรกันชเวมินโฮ
“เอาออกไปนะ ฮึก~” เสียงหวานที่ติดจะสะอื้นเล็กน้อยเอ่ยอย่างแผ่วเบา
ไม่แม้กระทั่งจะเงยขึ้นมามองหน้าอีกฝ่ายและเพราะเสียงนั้นเองที่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นมาได้
นึกโกรธตัวเองอยู่ลึกๆที่บังคับขืนใจร่างบาง
ทั้งๆที่มันไม่ใช่นิสัยของตัวเองเลยซักนิด ถึงเขาจะนอนกับผู้หญิงมาหลายคน
แต่ทุกคนก็ล้วนแล้วเต็มใจที่จะสานสัมพันธ์กับเขาทั้งนั้น
แล้วสิ่งที่เขาทำกับคีย์เล่า ทำไมความรู้สึกโกรธมันถึงได้บดบังจิตสำนึกไปเสียหมด
แต่ถ้าจะให้หยุดก็คงจะไม่ได้เสียแล้ว.....มือหนาเลื่อนไปเกลี่ยหยดน้ำตาที่กำลังไหลออกมา
แต่ดูเหมือนว่ายิ่งเช็ดเท่าไหร่มันก็ยิ่งไหลมากขึ้นเท่านั้น
“อย่าร้องสิ”
เสียงอ่อนโยนนั้นทำให้คีย์ต้องหันมาสบตากับเจ้าของเสียงทุ้มนั่น
โดยที่ร่างกายของทั้งสองฝ่ายก็ยังคงเชื่อมติดกันอยู่เช่นเดิม
“ผมเจ็บ” เจ็บทั้งร่างกายที่ถูกกระทำราวกับเขาเป็นสิ่งของ
เจ็บทั้งหัวใจยามที่ภาพในอดีตหวนตีกลับขึ้นมา เมื่อไม่อาจห้ามการกระทำของคนตรงหน้า
สุดท้ายก็ต้องข่มอารมณ์และน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาอีก ไม่อยากให้คนตรงหน้าได้เห็น
ไม่อยากกลับไปเป็นคิบอมที่อ่อนแออีกแล้ว
“งั้นก็อย่าเพิ่งขยับนะ” แต่แล้วสัมผัสที่ปวดร้าวก็แปรเปลี่ยนเป็นหวามไหว
ความรู้สึกภายในเริ่มไม่อาจต่อต้านได้ มือที่เช็ดน้ำตาอยู่นั้นค่อยๆเลื่อนมาปัดผมที่ปรกใบหน้าออก
สองสายตาประสานกันราวกับมนต์สะกด ก่อนจะโน้มตัวลงมาประกบริมฝีปากบางอย่างอ่อนโยน
ไร้ซึ่งการต่อต้าน ค่อยๆละเลียดลิ้นไล้ไปทั่วริมฝีปาก
แล้วส่งปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากของอีกฝ่าย หวานชวนน่าหลงไหล เนิ่นนานจนแทบขาดใจ
มือบางตวัดขึ้นไปโอบที่คอของมินโฮอย่างอ่อนแรงราวกับจะหาที่ยึดเหนี่ยว
“อืออออ~”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มจะขาดอากาศหายใจชายหนุ่มจึงยอมถอนริมฝีปากออกมา
ก่อนจะค่อยๆพรมจูบไปตามใหน้ารวมไปถึงใบหู
แล้วฝังใบหน้าลงสูดดมความหอมหวานบนลาดไหล่เนียนของร่างบาง ตีตราลงบนผิวสีน้ำนมนั้นราวกับแสดงความเป็นเจ้าของ
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของอีกฝ่ายเริ่มดีขึ้นแล้ว
มินโฮจึงค่อยขยับสะโพกอย่างเชื่องช้าเพื่อไม่ให้ร่างบางเจ็บไปมากกว่านี้
“ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า”
ชายหนุ่มถามเสียงสั่นพร่าเมื่อแรงเสียดสีจากการขยับเคลื่อนไหวนั้นก่อให้เกิดความเสียวซ่านแก่ร่างกายส่วนที่สอดแทรกลึกอยู่ในร่างบาง
ไม่มีเสียงตอบรับจากคีย์นอกจากดวงหน้าหวานที่ส่ายไปมาและแก้มใสที่บัดนี้เจือไปด้วยสีแดงระเรื่อที่ชายหนุ่มก็ไม่อาจแน่ใจว่ามาจากความสุขสมหรือความเขินกัน
“อ๊ะ อ๊า~” เสียงหวานครางเบาๆเมื่อเขากระแทกกายเข้ามา
ไหนจะส่วนอ่อนไหวที่ได้รับการปรนเปรอจากมือหนานั้นอีก
“อืมมมมม~”
“เบาเบาหน่อยสิ” เป็นคีย์เองที่เอ่ยประท้วงออกมาอย่างสั่นๆ เมื่อเขาซุกใบหน้าลงงับเม้มยอดอกพร้อมกับรั้งเอวบางให้ขยับเร็วขึ้นไปอีก
“เรียกชื่อฉันสิ”
เอ่ยทั้งที่ริมฝีปากยังวนเวียนอยู่เหนือยอดอกสีสวยคู่นั้น
“อะ มินโฮ~ ” คีย์หายใจหอบราวกับวิ่งเป็นสิบๆไมล์ ร้อนรุ่มไปหมดทั้งร่าง
โดยเฉพาะในส่วนที่เนื้อต่อเนื้อบดเบียดเสียดสีกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
อารมณ์ปรารถนาเดือดพล่านขึ้นเรื่อยๆเมื่อส่วนอ่อนไหวของร่างบางจวนจะใกล้ถึงฝั่งฝัน
และจังหวะนั้นเองที่ชายหนุ่มกระแทกตัวเข้ามาถูกจุด
เป็นครั้งแรกที่เขาเกิดความรู้สึกแบบนี้เวลาที่ร่วมรัก...ความรู้สึกเสียวซ่านที่แล่นขึ้นมาอย่างช้าๆ
ส่งผลให้คีย์สะท้านไปทั้งร่าง โน้มตัวไปข้างหน้าอีกนิดเพื่อให้จุดไวต่อความรู้สึกนั้นได้รับการเสียดสีมากยิ่งขึ้นในยามที่มินโฮกระแทกแก่นกายเข้ามา
เรียวแขนบอบบางกอดกระหวัดรัดร่างใหญ่ไว้พร้อมกับเสียงครางที่หลุดลอดผ่านริมฝีปากอิ่มออกมาอย่างสะกดกลั้นไม่อยู่
“มะ มินโฮ เร็วๆ อ๊ะ ~”
“อืมมมม คีย์~”
เร่งจังหวะขยับสะโพกตอบโต้การเคลื่อนไหวของคีย์
แล้วนัยน์ตาคู่สวยลืมขึ้นตามคำอ้อนขอของเขา ตาต่อตาสบกันนิ่ง
ต่างฝ่ายต่างสัมผัสถึงประกายระริกไหวในดวงตาของอีกฝ่าย
ที่บ่งบอกถึงอุณหภูมิทางอารมณ์ซึ่งใกล้จะพุ่งถึงขีดสุด
“มินโฮ อ๊ะ อ๊าาาา ~” ดวงหน้าหวานจัดแอ่นเงยเมื่อความเสียวซ่านพุ่งสูงถึงขีดสุด
เสียงครวญเรียกชื่อเขาตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอย่างสุขสม
ก่อนจะปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาจนเปรอะไปทั่วหน้าท้องของอีกฝ่าย
มินโฮกอดรัดร่างบางแน่น ซบหน้าลงกับแผ่นอกบาง
หอบหายใจแรงเมื่อตัวเขาเองก็จวนเจียนใกล้ถึงฝั่งฝันแล้วเช่นกัน
“อืมมมมมม~”
เสียงครางต่ำในลำคอ
แรงตอดรัดรุนแรงภายในร่างบางทำให้เขาไม่อาจทนทานไหวอีกต่อไป จนในที่สุด
ชายหนุ่มก็กัดฟันแน่น ปลดปล่อยความร้อนจัดภายในร่างตนเข้าสู่ร่างบางโดยไม่อาจฝืนบังคับได้อีกต่อไป
พร้อมกับที่อ้อมแขนแกร่งก็ตวัดกอดรัดร่างบางแน่นขึ้นอีกจนแทบจะละลายหายเป็นเนื้อเดียว
เกร็งสะท้านด้วยความสุขที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดใดๆได้
หากแต่เงียบไปได้ไม่นานแรงอารมณ์ของทั้งสองฝ่ายก็ปะทุขึ้นอีกราวกับมีใครมาใส่หัวเชื้อ
และคงไม่มีใครตอบได้ว่าเพลิงอารมณ์นี้จะไปสิ้นสุดเมื่อไหร่...
TBC