วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

DISLIKE :: CUT :: ไม่ชอบ 2


ร่างสูงจัดการถอดสูทสีดำของตนเองออก ไม่นานกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำก็ถูกปลดออกจนหมดเผยให้เห็นกล้ามมัดในแบบที่คีย์ไม่มี เข็มขัดที่ถอดออกถูกเขวี้ยงไปข้างๆราวกับของไร้ค่า ก่อนที่มินโฮจะเลื่อนมือมาปลดกระดุมของอีกฝ่ายด้วยความเร็วชนิดที่คีย์ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อเปลื้องท่อนบนเสร็จก็เลื่อนลงมาปลดซิปกางเกงออกก่อนจะดึงกางเกงสีดำเข้ารูปนั้นออกอย่างรวดเร็ว จนมาถึงปราการด่านสุดท้ายที่ก็ถูกถอดออกอย่างไร้ความปราณี


มือหนาจับขาเรียวนั้นแยกออกก่อนจะสอดใส่ความเป็นชายของตนเข้าไปโดยไม่มีการปลุกเร้าใดๆทั้งสิ้น


“โอ๊ยยยยย” คีย์ร้องออกมา...ไม่ใช่ด้วยความเสียวซ่าน แต่เหมือนจะด้วยความเจ็บปวดเสียมากกว่า แม้ว่าความเจ็บปวดนั้นจะไม่ได้มากมายนัก เพราะเขาเองก็ใช่ว่าจะบริสุทธิ์ หากแต่การที่สอดแทรกร่างเข้ามาอย่างรุนแรงภายโดยไม่ได้รับปลุกเร้าจนพร้อมถึงขนาดที่จะรับการสอดใส่ได้นั้น ก็ทำให้ร่างบางรู้สึกร้าวขึ้นมาในบริเวณที่ถูกรุกล้ำอย่างช่วยไม่ได้


ชายหนุ่มไม่ทันได้ใส่ใจว่าเสียงหวานที่หวีดร้องขึ้นมาเบาๆนั้นเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ เขาฝังใบหน้าลงกับซอกคออุ่น กัดฟันแน่นกับความรู้สึกบีบรัดรอบแก่นกายที่รุนแรงเสียจนเขาแทบจะทนไม่ไหว แม้เขาจะดันร่างเข้ามาได้เพียงครึ่งทางเท่านั้น หลังจากที่สะกดกลั้นข่มอารมณ์ไม่ให้ระเบิดออกมาเสียแต่เดี๋ยวนี้ได้จนสำเร็จ



มินโฮก็ค่อยๆช้อนสองมือเข้าใต้บั้นท้ายตึงแน่น กระชากร่างบางเข้าหาอีกสองสามครั้ง จนกระทั่งเขาสามารถล่วงล้ำผ่านความคับแน่นเข้าไปได้จนสุดทาง ท่ามกลางเสียงหวีดร้องเบาๆอีกคราของเจ้าของร่างงาม ที่ตามมาด้วยอาการจุกแน่นจนแทบจะทนไม่ไหวกับขนาดของสิ่งแปลกปลอมในร่างรวมทั้งแรงกระแทกกระทั้นของผู้เป็นเจ้าของ




น้ำตาของคีย์พลันขังคลอขึ้นในดวงตาอีกครั้ง เมื่อความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทำให้เขาพาลนึกไปถึงค่ำคืนแรกที่ต้องสูญเสียความเป็นชาย...ชนิดที่เรียกว่าโหดร้าย ป่าเถื่อน ไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์จากชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็น.....รักแรก




“อ่ะ อ่าาา คีย์” มินโฮครางออกมาเบาๆเมื่อสามารถพาร่างของตนเข้าไปได้จนสุด หากแต่ชายหนุ่มยังไม่ยอมขยับกาย เพราะเกรงว่าจะไม่สามารถทนทานกับความรู้สึกเสียวซ่านที่เกิดจากแรงบีบรัดภายในร่างบางนั้นได้



ไม่เคยเลยจริงๆที่เขาจะรู้สึกรุนแรงถึงขนาดนี้กับคู่นอนคนไหน เพียงแค่แทรกกายเข้าไปเท่านั้น ความรู้สึกของเขาก็จวนเจียนจะถึงจุดระเบิด...สวยไปทั้งร่าง ผิวกายขาวเนียนราวกับหิมะ เนื้อตัวนุ่มแน่นไม่หย่อนคล้อย ช่องทางสีเรื่อราวกับไม่เคยถูกผู้ใดแตะต้อง แล้วยังความรู้สึกคับแน่นที่เขาสัมผัสอยู่นี่อีกหล่ะ ชายหนุ่มอดเผลอนึกไปไม่ได้ว่าเขากำลังร่วมรักอยู่กับหนุ่มน้อยบริสุทธิ์ที่ไม่เคยผ่านใครมาก่อน แต่ความคิดก็คงเป็นแค่ความคิดที่หลอกตัวเองเพราะชายหนุ่มเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าคนตรงหน้านี้ก็เคยผ่านเพื่อนเขามาแล้ว



...แล้วจะเสียดายอะไรกันชเวมินโฮ



“เอาออกไปนะ ฮึก~” เสียงหวานที่ติดจะสะอื้นเล็กน้อยเอ่ยอย่างแผ่วเบา ไม่แม้กระทั่งจะเงยขึ้นมามองหน้าอีกฝ่ายและเพราะเสียงนั้นเองที่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นมาได้ นึกโกรธตัวเองอยู่ลึกๆที่บังคับขืนใจร่างบาง ทั้งๆที่มันไม่ใช่นิสัยของตัวเองเลยซักนิด ถึงเขาจะนอนกับผู้หญิงมาหลายคน แต่ทุกคนก็ล้วนแล้วเต็มใจที่จะสานสัมพันธ์กับเขาทั้งนั้น แล้วสิ่งที่เขาทำกับคีย์เล่า ทำไมความรู้สึกโกรธมันถึงได้บดบังจิตสำนึกไปเสียหมด


แต่ถ้าจะให้หยุดก็คงจะไม่ได้เสียแล้ว.....มือหนาเลื่อนไปเกลี่ยหยดน้ำตาที่กำลังไหลออกมา แต่ดูเหมือนว่ายิ่งเช็ดเท่าไหร่มันก็ยิ่งไหลมากขึ้นเท่านั้น


“อย่าร้องสิ” เสียงอ่อนโยนนั้นทำให้คีย์ต้องหันมาสบตากับเจ้าของเสียงทุ้มนั่น โดยที่ร่างกายของทั้งสองฝ่ายก็ยังคงเชื่อมติดกันอยู่เช่นเดิม


“ผมเจ็บ” เจ็บทั้งร่างกายที่ถูกกระทำราวกับเขาเป็นสิ่งของ เจ็บทั้งหัวใจยามที่ภาพในอดีตหวนตีกลับขึ้นมา เมื่อไม่อาจห้ามการกระทำของคนตรงหน้า สุดท้ายก็ต้องข่มอารมณ์และน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาอีก ไม่อยากให้คนตรงหน้าได้เห็น


ไม่อยากกลับไปเป็นคิบอมที่อ่อนแออีกแล้ว


“งั้นก็อย่าเพิ่งขยับนะ” แต่แล้วสัมผัสที่ปวดร้าวก็แปรเปลี่ยนเป็นหวามไหว ความรู้สึกภายในเริ่มไม่อาจต่อต้านได้ มือที่เช็ดน้ำตาอยู่นั้นค่อยๆเลื่อนมาปัดผมที่ปรกใบหน้าออก สองสายตาประสานกันราวกับมนต์สะกด ก่อนจะโน้มตัวลงมาประกบริมฝีปากบางอย่างอ่อนโยน ไร้ซึ่งการต่อต้าน ค่อยๆละเลียดลิ้นไล้ไปทั่วริมฝีปาก แล้วส่งปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากของอีกฝ่าย หวานชวนน่าหลงไหล เนิ่นนานจนแทบขาดใจ มือบางตวัดขึ้นไปโอบที่คอของมินโฮอย่างอ่อนแรงราวกับจะหาที่ยึดเหนี่ยว



“อืออออ~” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มจะขาดอากาศหายใจชายหนุ่มจึงยอมถอนริมฝีปากออกมา ก่อนจะค่อยๆพรมจูบไปตามใหน้ารวมไปถึงใบหู แล้วฝังใบหน้าลงสูดดมความหอมหวานบนลาดไหล่เนียนของร่างบาง ตีตราลงบนผิวสีน้ำนมนั้นราวกับแสดงความเป็นเจ้าของ เมื่อเห็นว่าสีหน้าของอีกฝ่ายเริ่มดีขึ้นแล้ว มินโฮจึงค่อยขยับสะโพกอย่างเชื่องช้าเพื่อไม่ให้ร่างบางเจ็บไปมากกว่านี้



“ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” ชายหนุ่มถามเสียงสั่นพร่าเมื่อแรงเสียดสีจากการขยับเคลื่อนไหวนั้นก่อให้เกิดความเสียวซ่านแก่ร่างกายส่วนที่สอดแทรกลึกอยู่ในร่างบาง ไม่มีเสียงตอบรับจากคีย์นอกจากดวงหน้าหวานที่ส่ายไปมาและแก้มใสที่บัดนี้เจือไปด้วยสีแดงระเรื่อที่ชายหนุ่มก็ไม่อาจแน่ใจว่ามาจากความสุขสมหรือความเขินกัน



“อ๊ะ อ๊า~” เสียงหวานครางเบาๆเมื่อเขากระแทกกายเข้ามา ไหนจะส่วนอ่อนไหวที่ได้รับการปรนเปรอจากมือหนานั้นอีก



“อืมมมมม~


“เบาเบาหน่อยสิ” เป็นคีย์เองที่เอ่ยประท้วงออกมาอย่างสั่นๆ เมื่อเขาซุกใบหน้าลงงับเม้มยอดอกพร้อมกับรั้งเอวบางให้ขยับเร็วขึ้นไปอีก


“เรียกชื่อฉันสิ” เอ่ยทั้งที่ริมฝีปากยังวนเวียนอยู่เหนือยอดอกสีสวยคู่นั้น


“อะ มินโฮ~ ” คีย์หายใจหอบราวกับวิ่งเป็นสิบๆไมล์ ร้อนรุ่มไปหมดทั้งร่าง โดยเฉพาะในส่วนที่เนื้อต่อเนื้อบดเบียดเสียดสีกันอย่างไม่มีใครยอมใคร


อารมณ์ปรารถนาเดือดพล่านขึ้นเรื่อยๆเมื่อส่วนอ่อนไหวของร่างบางจวนจะใกล้ถึงฝั่งฝัน และจังหวะนั้นเองที่ชายหนุ่มกระแทกตัวเข้ามาถูกจุด เป็นครั้งแรกที่เขาเกิดความรู้สึกแบบนี้เวลาที่ร่วมรัก...ความรู้สึกเสียวซ่านที่แล่นขึ้นมาอย่างช้าๆ ส่งผลให้คีย์สะท้านไปทั้งร่าง โน้มตัวไปข้างหน้าอีกนิดเพื่อให้จุดไวต่อความรู้สึกนั้นได้รับการเสียดสีมากยิ่งขึ้นในยามที่มินโฮกระแทกแก่นกายเข้ามา เรียวแขนบอบบางกอดกระหวัดรัดร่างใหญ่ไว้พร้อมกับเสียงครางที่หลุดลอดผ่านริมฝีปากอิ่มออกมาอย่างสะกดกลั้นไม่อยู่



“มะ มินโฮ เร็วๆ อ๊ะ ~



“อืมมมม คีย์~

เร่งจังหวะขยับสะโพกตอบโต้การเคลื่อนไหวของคีย์ แล้วนัยน์ตาคู่สวยลืมขึ้นตามคำอ้อนขอของเขา ตาต่อตาสบกันนิ่ง ต่างฝ่ายต่างสัมผัสถึงประกายระริกไหวในดวงตาของอีกฝ่าย ที่บ่งบอกถึงอุณหภูมิทางอารมณ์ซึ่งใกล้จะพุ่งถึงขีดสุด


“มินโฮ อ๊ะ อ๊าาาา ~” ดวงหน้าหวานจัดแอ่นเงยเมื่อความเสียวซ่านพุ่งสูงถึงขีดสุด เสียงครวญเรียกชื่อเขาตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอย่างสุขสม ก่อนจะปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาจนเปรอะไปทั่วหน้าท้องของอีกฝ่าย มินโฮกอดรัดร่างบางแน่น ซบหน้าลงกับแผ่นอกบาง หอบหายใจแรงเมื่อตัวเขาเองก็จวนเจียนใกล้ถึงฝั่งฝันแล้วเช่นกัน



“อืมมมมมม~


เสียงครางต่ำในลำคอ แรงตอดรัดรุนแรงภายในร่างบางทำให้เขาไม่อาจทนทานไหวอีกต่อไป จนในที่สุด ชายหนุ่มก็กัดฟันแน่น ปลดปล่อยความร้อนจัดภายในร่างตนเข้าสู่ร่างบางโดยไม่อาจฝืนบังคับได้อีกต่อไป พร้อมกับที่อ้อมแขนแกร่งก็ตวัดกอดรัดร่างบางแน่นขึ้นอีกจนแทบจะละลายหายเป็นเนื้อเดียว เกร็งสะท้านด้วยความสุขที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดใดๆได้




หากแต่เงียบไปได้ไม่นานแรงอารมณ์ของทั้งสองฝ่ายก็ปะทุขึ้นอีกราวกับมีใครมาใส่หัวเชื้อ และคงไม่มีใครตอบได้ว่าเพลิงอารมณ์นี้จะไปสิ้นสุดเมื่อไหร่...








TBC

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น